USS Taxas (BB-35)
เรือลำนี้ คือ เรือคลาส เดรดนอท (Dreadnought) ซึ่งเป็นเรือรบที่นิยมผลิตกันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยต้นแบบมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นชาติแรกที่คิดค้น ระบบการต่อเรือเช่นนี้ขึ้นมา โดยผลิตมาเพื่อป้องกันน่านน้ำระหว่างประเทศอังกฤษกับ เยอรมันนี ซึ่งสมัยนั้น ทั้ง 2 ชาติค่อนข้างมีความขัดแย้งทางการทูตมาก ทั้งเยอรมันนีก็พยายาม เสริมสร้างทัพนาวีให้แข็งแกร่งเช่นเดียวกับอังกฤษ เรือชั้นเดรดนอท นี้จึงมีอิทธิพลอย่างมากทางทะเลในช่วงสงครามสมัยใหม่อย่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และเรือลำนี้ก็นับได้ว่าเป็นเรือที่มีอายุมากพอสมควรเพราะตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เกือบศตวรรษได้แล้ว เรามาศึกษาเรือลำนี้กันเถอะ
ยูเอสเอส เท็กซัส (USS Texas) เป็นเรือลำที่ 2 ของกองทัพสหรัฐที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้กับรัฐ "เท็กซัส" ถือเป็นเรือเดรดนอท ใน คลาสเรือประจัญบาน นิวยอร์ก เรือได้เริ่มประจำการ วันที่ 18 พฤษภาคม 1912 และรับหน้าที่ วันที่ 12 มีนาคม 1914
ยูเอสเอส เท็กซัส ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 |
หลังจากเข้ารับหน้าที่ไม่นาน ก็ได้รับมอบหมาย ให้ไปคุมในน่านน้ำทะเลแม็กซิกัน ซึ่งระหว่างนั้นเองกะลาสีเรืออเมริกันก็ได้เกิดการกระทบกระทั่งกับ กะลาสีเรือชาวแม็กซิกัน ซึ่งเรียกเหตุการณ์นั้นว่า "เหตุการณ์แท็มปิโก" (Tampico Affair) ส่งผลให้เรือทั้ง 2 ฝ่ายยิงสวนกันไป มีผู้เสียชีวิต และ เรือบางลำเสียหาย แต่ก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่รุนแรงนัก เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ต่อจากนี้ไป คือ สงครามครั้งที่ 1
ในช่วงสงครามครั้งที่ 1 ยูเอสเอส เท็กซัส ได้เข้าร่วมเหตุการณ์ในสงครามครั้งที่ 1 โดยเป็นเรือคุ้มกันเรือขนส่งสินค้า ชื่อว่า เอสเอส มองโกลเลีย (SS Mongolia) จนได้พบกับเยอรมันจึงเปิดฉากยิงนับว่าเป็นเรือรบลำแรกของกองทัพสหรัฐในสงครามที่เริ่มเปิดฉากยิงใส่ เรือศัตรู คือเรืออู (U-Boat) หรือ เรือดำน้ำ ของเยอรมันนั้นเองซึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้มีโอกาสแล่นไปยังอังกฤษ ต่อจากเหตุการณ์นั้นก็แล่นไปยังที่ต่างๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสกระทบทั่งกับศัตรูอีก ถึงแม้ระหว่างทางจะพบแต่ก็หลีกที่จะสู้ไปด้วย หลังจากสงครามเรือก็ได้ไปเทียบท่าที่พอร์ตแลนด์ฮาร์เบอร์, ประเทศอังกฤษโดยไปถึงที่นั่นเมื่อ 4 ธันวาคม 1918
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยูเอสเอส เท็กซัส ก็ได้เข้าร่วมสงครามด้วย เมื่อสหรัฐประกาศสงครามกับ ฝ่ายอักษะ ยูเอสเอส เท็กซัส ได้เป็นเรือในขบวนเรือรบของสหรัฐ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และได้มีส่วนร่วมในการยิงปืนใหญ่ใส่ฝ่ายอักษะ ในแอฟริกาเหนือ และ การบุกของฝ่ายพันธมิตรที่นอร์มังดี ต่อจากนั้นเรือก็ได้ย้ายไปประจำที่น่านน้ำแปซิฟิก ในช่วงปลายปี 1944 เพื่อให้การสนับสนุนเรือปืนในระหว่างสงครามอิโวจิมาและโอกินาวา ที่ประเทศญี่ปุ่น
หลังสงครามยุติลง ยูเอสเอส เท็กซัส ได้การพิจาณาจากคณะกรรมการให้ปลดระวางเรือ ในวันที่ 21 เมษายน 1948 โดยเปลี่ยนให้เป็นเรือพิพิธภัณฑ์แห่งกองทัพสหรัฐ ที่สำคัญเรือ ยูเอสเอส เท็กซัส คือเรือประจัญบานลำแรกที่ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ของกองทัพเรือสหรัฐ และได้รับหน้าที่อันสูงสุดของการเป็นเรือประจัญบานในแต่ละรัฐ นั้นคือ เรือธงประจำรัฐ เท็กซัส
ยูเอสเอส เท็กซัส ได้รับแบทเทิลสตาร์ 5 ดวง สำหรับการปฎิบัติหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เรือ ใกล้กับฮูสตัน, เท็กซัส ถึงแม้ว่ายูเอสเอส เท็กซัส จะไม่ใช้เรือประจัญบานที่เก่าแก่ที่สุด โดยถือเป็น มิกาสะ เรือประจัญบานของญี่ปุ่นในปี 1898 แต่ก็ถือว่าเป็นเรือรบ 1 ใน 6 ลำในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ที่ยังไม่ถูกชำแหละ ทำให้เรือเหล่านี้คือเรือที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกเป็นอย่างมาก ใครไปเที่ยวเท็กซัส ก็อย่าลืมไปแวะเที่ยวดูเรือลำนี้บ้างนะครับ.
สถิติ สิ่งแรกของกองทัพเรือสหรัฐ
- เป็นเรือประจัญบานเดรดนอทลำเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
- เป็นเรือที่โดดเด่นในด้านขนาดที่สุดลำแรกของกองเรือสหรัฐ
- เป็นเรือลำแรกที่รับมอบหมายให้เป็นบ้านพักของหน่วยมารีน ซึ่งเกิดจากความบังเอิญ ในช่วงสงคราม
- เป็นเรือลำแรกที่ติดปืนต่อต้านอากาศยานไว้บนเรือรบ
- เป็นเรือลำแรกที่ติดระบบการยิงด้วยการใช้เครื่องกำหนดทิศทางและหน่วยเล็งปืน (ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้ คอมพิวเตอร์แทน)
- เป็นเรือลำแรกที่ยิงเครื่องบินตกด้วย ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน (โดยปืนใหญ่ชื่อว่า Turret 3)
- เป็นหนึ่งในเรือลำแรกๆ ที่ได้ติดตั้งระบบเรดาร์ CXAM-1
- เป็นเรือประจัญบานลำแรกที่ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ของกองทัพเรือสหรัฐ
- เป็นเรือประจัญบานลำแรกที่ได้รับยกเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ชาติสหรัฐ (US National Historic Landmark)
ลักษณะจำเพาะ (1945)
- ขนาด (ระวางขับน้ำ) : 32,000 ตัน
- ความยาว : 175 เมตร
- ความกว้าง : 29.03 เมตร
- กินน้ำลึก : 9.60 เมตร
- ความเร็วเต็มที่ : 10 น็อต (19 กม./ชม.)
- บรรจุทหาร : 1,810 นาย
- ปืนใหญ่ขนาด 360 มม. 10 กระบอก
- ปืนใหญ่ขนาด 130 มม. 6 กระบอก
- ปืนใหญ่ขนาด 76 มม. 10 กระบอก
- ปืนใหญ่ขนาด 40 มม. 10 กระบอก
- ปืนใหญ่ขนาด 20 มม. 44 กระบอก
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น