German Battleship Tirpitz
เรือลำนี้คือ ควีน ของไรซ์ที่ 3 ส่วน บิสมาร์ก คือ คิง ของไรซ์ที่ 3 สำหรับสาเหตุที่เราเรียกเรือลำนี้ว่า ควีน ก็เพราะว่าเป็นเรือน้องของบิสมาร์ก แต่ถ้าพูดความยิ่งใหญ่เรือลำนี้อาจเป็นรองเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็ดี ความยิ่งใหญ่ของเรือชั้นบิสมาร์ก ซึ่งมีเพียง 2 ลำ ก็สามารถสร้างความแข็งแกร่งทางทะเลให้กับทัพเยอรมันนีได้เป็นอย่างมาก แม้แต่อังกฤษที่สมัยนั้นถือเป็นที่ 1 ทางทะเล ก็ยังต้องยอมแพ้ มาดูประวัติเรือประจัญบานเทียร์พิตซ์ กันเถอะ
เรือประจัญบานเทียร์พิตซ์ ( Battleship Tirpitz ) เป็นหนึ่งในสองเรือประจัญบานชั้น บิสมาร์ก ซึ่งถือเป็นชั้นเรือที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันนี ผลิตขึ้นเพื่อรับใช้ทัพเรือนาซีเยอรมัน ( Kriegsmarine ) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
คำว่า "เทียร์พิตซ์" มาจากผู้บัญชาการทหารเรือหลวงเยอรมันนี ( Imperial German Navy ) คนสำคัญของเยอรมันนีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นามว่า "อัลเฟรด ฟอน เทียร์พิตซ์"
เทียร์พิตซ์ขณะถูกเครื่องบินรบอังกฤษเข้าถล่ม (3 เมษายน 1944) |
หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบเรือในช่วงต้นปี 1941 ก็ได้ไปร่วมกับกองเรือบอลติก ซึ่งได้เป็นเรือแม่ มีหน้าที่เฝ้าระวังกองเรือโซเวียตในทะเลบอลติก ในช่วงปี 1942 เรือเทียร์พิตซ์ ได้แล่นไปทางนอร์เวย์ เพื่อเข้าไปยับยั้งกองกำลังจากฝั่งพันธมิตร และการรุกรานของเหล่าพันธมิตร ขณะที่อยู่ในนอร์เวย์ ก็ได้เข้าถล่มกองเรือที่มุ่งไปโซเวียต
ในตอนนี้ เรือระดับตำนาน ชั้นบิสมาร์ก ที่มีอยู่ 2 ลำ ได้ถูกอังกฤษจมลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 1 ลำ คือเรือบิสมาร์ก นั่นเอง คงเหลือแต่เรือลำนี้ลำเดียวที่ยังคงเป็นความหวังให้กับเยอรมันอยู่
เทียร์พิตซ์ นับเป็นหนึ่งในเรือรบที่จัดทัพกลางทะเล จุดประสงค์หลักคือการต่อกรกับทัพเรืออังกฤษ เพื่อที่จะครอบครองพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ในทะเลให้กับเยอรมันนี ต่อมาในปี 1943 เทียร์พิตซ์และ เรือประจัญบาน ชาร์นโฮสต์ ( Scharnhorst ) ได้มีส่วนร่วมในการถล่มฝั่งพันธมิตรบนเกาะสฟาลบาร์ ของนอร์เวย์ เมื่อเทียร์พิตซ์ ได้ยิงกระสุนออกจากปืนใหญ่หลักออกไปได้เพียงหนึ่งลูก หลังจากนั้นไม่นาน เทียร์พิตซ์ ก็ถูกโจมตี โดยแผนของอังกฤษที่เรียกว่า Operation Source ด้วยวิธีการส่งเรือดำน้ำขนาดเล็ก ( Mini-submarines ) ที่มีคนขับเพียง 1-2 คน จำนวนหลายๆลำเข้าโจมตี ตามมาด้วยการโจมตีทางอากาศขนานใหญ่ แต่เรือก็สามารถรอดมาได้ จนซ่อมเสร็จพอใช้งานได้ ในช่วงเดือนเมษายน 1944
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 1944 เครื่องบินแลนเชสเตอร์ของอังกฤษได้บรรทุกระเบิดทอลบอล (Tallboy) น้ำหนักกว่า 12,000 ปอนด์ (5,400 กก.) ทิ้งเข้าใส่เรือประจัญเทียร์พิตซ์ โดยโดนเป้าเต็มๆ ส่งผลให้เรือพลิกคว่ำอย่างรวดเร็ว (ดั่งภาพด้านล่าง) เพลิงกระจายไปยังฐานยิงปืนใหญ่หลัก ซึ่งเป็นที่บรรจุกระสุนปืนใหญ่ ส่งผลให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ตามมา มีการคำนวณผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่าง 950 ถึง 1,250 นาย และภายหลังสงครามยุติลงเรือลำนี้ก็ได้รับการกู้ขึ้นมา โดยความร่วมมือของนอร์เวย์และเยอรมันนี
ความพยายามของอังกฤษที่หวังจะจมเรือประจัญบานเทียร์พิตซ์ นั้น หลายครั้งด้วยกัน ได้แก่ Operation Source, Tungsten Planet, Brawn, Tiger Claw, Mascot, Goodwood, Paravane, Obviate และสุดท้ายคือ Operation Catechism รวมแล้ว 9 ปฏิบัติการด้วยกัน นี่แหละคือพยายามของอังกฤษขนานแท้ ที่หวังจะจมมหาเรือแห่งไรซ์ที่ 3 ลำนี้ให้จงได้ และในที่สุดปฏิบัติการสุดท้ายของอังกฤษ นามว่า "Operation Catechism" นั้นก็ได้ทำให้โลกเห็นว่าอังกฤษก็สามารถล้มเรือประจัญบานลำแม่ลำสุดท้ายของเยอรมันลงได้ นี้คือการปิดฉากทั้งเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดลำหนึ่งเท่าที่เยอรมันเคยสร้างมาและเป็นการปิดฉากตระกูลเรือชั้นบิสมาร์ก ที่ได้เคยบันทึกในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ว่า เป็น 2 เรือที่ประจัญบานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งไรซ์ที่ 3 ตั้งแต่เคยมีมา.
ลักษณะจำเพาะ
- ขนาด (ระวางขับน้ำ) : 42,900 ตัน
- ความยาว : 241.6 เมตร
- ความกว้าง : 36 เมตร
- กินน้ำลึก : 9.3 เมตร
- ความเร็วเต็มที่ : 30 น็อต (56 กม./ชม.)
- บรรจุทหาร : 2,065 นาย
บลูปริ้น เทียร์พิตซ์
- ปืนใหญ่ขนาด 380 มม. (15 นิ้ว) ชนิด 2 กระบอก จำนวน 4 ป้อม
- ปืนใหญ่ขนาด 150 มม. (5.9 นิ้ว) ชนิด 6 กระบอก จำนวน 2 ป้อม
- ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานขนาด 105 มม. (4.1 นิ้ว) 16 กระบอก
- ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานขนาด 37 มม. (1.5 นิ้ว) 16 กระบอก
- ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานขนาด 20 มม. (0.79 นิ้ว) 12 กระบอก
อ้างอิง